สิวขึ้นที่คางเกิดจากอะไร ? ทำไงให้หายไวๆแบบธรรมชาติวันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นปัญหาที่หนักอกหนักใจสาว ๆ หลายคนนั่นก็คือ “สิวที่คาง” นั่นเอง บางท่านอาจจะคิดว่า เอ…ทำยังไงดีนะ ทั้ง ๆ ที่ก็ล้างหน้าสะอาดมากแล้วหรือเครื่องสำอางที่ใช้ก็ไม่ทำให้อุดตันนี่นา.. บลาๆๆ
ซึ่งการล้างหน้าให้สะอาดรวมถึงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่อุดตันดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นแค่ “ส่วนหนึ่ง” ของการเกิดสิวที่คางที่เป็นปัญหารบกวนจิตใจของสาวๆหลายท่าน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการมีบุคลิกภาพที่ดีหรือทำให้เสียความมั่นใจจนไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับผู้อื่น แต่อย่าเพิ่งเครียดหรือวิตกกังวลกันจนเกินไปค่ะ! วันนี้เราจะมาแชร์ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่คาง รวมถึงเคล็ดลับดี ๆวิธีการรักษาอย่างไรให้ได้ผล พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยค่า!
สิวที่คาง เริ่มจาก ฮอร์โมน เกิดจากปัจจัยของความไม่สมดุลกันของร่างกาย เช่น ประจำเดือนมาผิดปกติ ความเครียดอารมณ์หงุดหงิด หรือ เกิดจากสาเหตุที่มีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ทำให้มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง และขนดก แต่สาเหตุหลักๆเลยก็คือ “ความเครียด” ซึ่งมักเกิดขึ้นช่วงเวลาที่มีประจำเดือน หรือมีปัญหากวนใจ หงุดหงิด พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น และเมื่อตัวเราเกิดอาการเครียดเวลาดังกล่าวร่างกายของเราจะอ่อนแอทำให้ร่างกายต้องดึงพลังในการผลิตฮอร์โมนส่วนหนึ่งไปเพื่อให้เราจัดการกับความเครียด ทำให้เรารู้สึกสดชื่นไม่อ่อนแอ หลังจากที่ร่างกายของเราได้นำพลังงานส่วนนี้ไปใช้งานทำให้เกิดสภาวะการขาดความสมดุลของฮอร์โมนเพศจึงเป็นที่มาของการเกิดสิวที่คาง
ผิวหน้าสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่ในอากาศ หรือในน้ำ เช่น ฝุ่นละออง โดยเมื่อผิวหน้าสัมผัสกับฝุ่นละอองและไหลรวมกับเหงื่อจะก่อให้เกิดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวที่คาง
อาการแพ้น้ำ แพ้เหงื่อ โดยส่วนนี้ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ซึ่งส่วนมากจะเกิดกับคนแพ้ง่าย เช่น ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว โดยทั่วไปจะมีผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเหมาะสำหรับคนผิวแห้ง หรือ ผิวมัน หากใช้ผิดประเภทอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่คางได้ค่ะ
ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าบ่อยเกินไปซึ่งการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นคือการเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้สิ่งสกปรกเข้ามาอุดตันรูขุมขนได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังทำให้ผิวแห้ง จนผิวหน้าเสียสมดุล ขับน้ำมันออกมามากเกินไป เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
การสัมผัสกับใบหน้าบ่อย การท้าวคาง หรือ เช็ดหน้าแรงเกินไป ซึ่งสาวๆ บางท่านยังมีความเชื่อว่าหากขัดหน้าแรงๆจะทำให้หน้าขาวหรือใสขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดแถมยังส่งผลเสียต่อผิวหน้าในภายภาคหน้าด้วยค่ะ เพราะจะทำให้ผิวหย่อนคล้อยง่ายและแพ้ง่ายกว่าเดิม
อาหารการกิน การกินไขมันมากเกินไปนอกจากจะทำให้เกิดเซลลูโลสส่วนเกินแล้ว ยังส่งผลก่อให้เกิดการเป็นสิวที่คางอีกด้วยค่ะ
ท้องผูก ระบบขับถ่ายไม่ดี
เป็นยังไงกันบ้างคะ เข้าข่ายกี่ข้อเอ่ย แต่นอกเหนือจากข้อมูลในส่วนสาเหตุตัวการของการเกิดสิวที่คางแล้วนั้น เรายังมีวิธีที่จะแชร์ให้เพื่อน ๆ รอดพ้นจากการเป็นสิวที่คางนั่นก็คือ
รักษาสิวที่คาง โดยการรับประทานผักผลไม้มากๆเพราะสิวที่คางเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลำไส้กำลังมีปัญหา โดยสามารถสังเกตได้ว่า คนที่ท้องผูกหรือไม่ได้ขับถ่ายเป็นปกติมักที่จะมีสิวเกิดขึ้นที่คาง การรับประทานผลไม้จะช่วยทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ทำให้ลดการเกิดสิวที่คางได้
ยาบำรุงสตรีช่วยรักษาสิวที่คางในช่วงที่คุณสาวๆมีประจำเดือนเกิดขึ้น ฮอร์โมนของเพศหญิงจะไม่ค่อยมีความสมดุลนัก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำเกิดสิวขึ้นบริเวณใต้คาง เป็นส่วนที่บอบบางและเสี่ยงต่อการเกิดสิวอักเสบขึ้นได้ง่าย การกินยาสตรีจะช่วยปรับสมดุลของเพศหญิงให้เป็นปกติช่วยในการหมุนเวียนเลือด เมื่อระบบร่างกายของคุณสาว ๆ ดี สิวที่คางก็จะไม่เกิดขึ้น
เชื่อหรือไม่ว่า การรับประทานคอลลาเจนทำให้จำนวนการเกิดสิวดลง นั่นก็เป็นเพราะว่าสารอาหารนี้ช่วยเสริมสร้างโปรตีน อันเป็นส่วนสำคัญในการซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกาย รวมถึงการช่วยให้ฮอร์โมนสมดุลมากขึ้น ฉะนั้นแล้วสาว ๆ อย่ารอช้าให้รู้วิธีกินคอลลาเจนข้างฉลากและสวยจากภายในกันเถอะ
ลดละความเครียดความเครียดเป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สิวเกิดขึ้นที่คาง คุณสาวๆ ควรหากิจกรรมที่ชอบมาช่วยลดความเครียดลง เช่น ดูหนัง ออกไปทานข้าวร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ไปช็อปปิ้ง เป็นต้น
สิวขึ้นที่คางเกิดจากอะไร ? ลองลดระดับความเผ็ดในอาหาร หรือรับประทานอาหารที่มีรสจืด เพราะการทานอาหารรสจัดทำให้ลำไส้ต้องทำงานหนักซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวขึ้นที่คาง
เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของระบบย่อยอาหารซึ่งจะช่วยทำให้ลำไส้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้น
เพราะในมือของเรามีคราบสกปรกและเชื้อแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก รู้หรือไม่ว่าในขณะที่ท้าวคางจะทำให้บริเวณที่ถูกมือสัมผัสเกิดความสกปรกอาจนำไปสู่การเกิดสิวขึ้น
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้าและไม่ควรเสี่ยงใช้ครีมตลาดที่ไม่มีใบรับรอง
อีกหนึ่งปัญหาที่หน้าไม่ใสคือ สิวหัวดำ!! เป็นสิวเรื้อรัง ส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ หาหมอก็แล้ว ใช้สกินแคร์ดีๆ ก็แล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่หายขาดสักที เคยไหมคะสาว ๆ เป็นสิวหัวดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งช่วงเข้าหน้าหนาวนึกว่าผิวจะไม่มัน สิวจะไม่มีมาให้กวนใจ แต่ไหง..ผิวหน้าถึงผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิม หน้าก็แห้ง รูขุมขนก็ไม่กระชับ มีสิวหัวดำผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำสารพัดวิถีทาง แต่แก้ไม่ได้ซักที
อย่าเพิ่งเครียดกันมากเกินไปค่ะ วันนี้แอดมินมีวิธีดีๆ ที่คัดสรรจากบทความคุณภาพ ผสมกับความรู้ที่เก็บมาตั้งแต่เริ่มดูแลตัวเองเป็น ซึ่งวันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการดูแลผิวหน้าช่วงเป็นสิวให้สาวๆ นำไปแชร์ต่อเพื่อจะได้สวยกันถ้วนหน้า จะมีอะไรบ้างนั้น ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักสาเหตุของการเกิดสิวกันก่อน
สิวหัวดํา เกิดจาก โดยสาเหตุของการเกิดสิวหัวดำนั้น เกิดจากความมันและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ต้องเผชิญทุกวันมารวมกันอยู่ในรูขุมขน ฟังแล้วดูน่ายี้มากเลยใช่ไหมล่ะคะ อีกทั้งสิวเหล่านี้ก็สามารถทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น แถมยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียนด้วย หากบนผิวหน้าของคุณมีสิวหัวดำปรากฏอยู่ ก็ควรจะกำจัดมันให้ออกไปอย่างเร็วที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นสิวหัวดำที่แสนจะน่าเกลียด จะกลายร่างเป็นสิวอุดตันที่รักษายากกว่าเดิมอีกต่างหาก โดยปกติแล้วใบหน้าของคนเราผลิตน้ำมันออกมาตลอดเวลา แต่หากคุณเป็นคนหน้ามันมากกว่าคนปกติ คุณก็จะมีโอกาสเป็นสิวหัวดำได้มากกว่าคนที่มีสภาพผิวธรรมดา ซึ่งหากหน้าเริ่มมันควรซับออกบ่อยๆ
เพื่อลดการเกิดสิวหัวดำ แต่ถ้าหากคุณจัดการสิวหัวดำเจ้ากรรมออกไปอย่างไม่ถูกวิธี มันสามารถกลับมากวนใจได้เรื่อยๆ หลายคนที่ประสบปัญหาสิวหัวดำก็มักจะใช้แผ่นลอกสิวหัวดำ ซึ่งเมื่อลอกแผ่นนั้นออกคุณจะเห็นว่าสิวป็นจุดดำๆ เต็มไปหมด การกำจัดสิวหัวดำด้วยวิธีนี้ไม่ผิด แต่เมื่อทำเสร็จแล้วคุณจะต้องล้างหน้าให้สะอาดและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้รูขุมขนสะอาด และถ้าไม่อยากให้สิวหัวดำกลับมากวนใจอีก ก็ควรเปลี่ยนนิสัยในการบำรุงผิวหน้าใหม่ ด้วยการสัมผัสผิวหน้าให้เบาที่สุด โดยไม่ต้องสครับผิวหรือขัดผิวบ่อย และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำหอมซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว เพียงเท่านี้หน้าของคุณก็จะใสไร้สิวหัวดำ ต่อไปนี้แอดมินมีสูตรมาร์กหน้าลดสิวและเคล็ดลับดีๆ ที่จะทำให้สาวๆ เตรียมตัวบอกลาสิวหัวดำมาฝากกันค่ะ
สิวหัวดํา Pantip กำจัดสิวหัวดำที่จมูกด้วยวาสลีน (Vaseline) เพียงแค่นำเอาวาสลีนมาทาหนาๆบนจมูก จากนั้นใช้นิ้วมือทาวนรอบๆจมูกและบริเวณที่มีสิวหัวดำ เพื่ออุ่นเนื้อครีมให้ร้อน หลังจากนั้นก็นำถุงพลาสติกใสมาแปะทับ แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นมาปิดทับไว้ให้บริเวณนั้นเพิ่มความร้อน ซึ่งจะเป็นการขยายรูขุมขน จากนั้นทิ้งไว้สักพัก แล้วค่อยลอกเอาทิชชูเช็ดออก เพียงเท่านี้สิวหัวดำกวนใจก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย
สครับมะเขือเทศขจัดสิวหัวดำ เพียงแค่นำมะเขือเทศที่สุกแดงแล้วมาฝานเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นนำมาถูให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เพียงเท่านี้สิวอุดตันก็ยุบตัว และมีหัวให้เรากำจัดมันออกมาได้ (ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง ควรเว้นระยะการทำจากสัปดาห์ละครั้งเป็นสองสัปดาห์หนึ่งครั้งแทน)
รักษาสิวหัวดำ ด้วยเปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวผสมโยเกิร์ต เพียงแค่คุณใช้เปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวที่สับละเอียดแล้วนำมาผสมกับโยเกิร์ต นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยกำจัดสิวอุดตันออกไปจากใบหน้าได้ค่ะ
สูตรรักษาสิวหัวดำ น้ำมะนาว+น้ำผึ้งอุ่น เพียงแค่นำน้ำมะนาว 3-4 หยด มาหยดลงบนน้ำผึ้งที่มีอัตราส่วนเท่ากัน จากนั้นนำไปแต้มลงบนหัวสิว ทิ้งเอาไว้ 15 นาที จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้แนะนำให้ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แล้วสิวหัวดำจะค่อยๆ หายค่ะ
การดูแลรักษาสิวหัวดำ มันฝรั่ง เพียงแค่นำมันฝรั่งดิบมาสับจนละเอียด แล้วพอกลงบนบริเวณที่เป็นสิวหัวดำ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ปัญหาสิวหัวดำก็จะหมดไปค่ะ
เพียงแค่นำเออาแตงกวาเย็นๆ มาบด หรือสับให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับ น้ำผึ้ง หรือมะนาวก็ได้ จากนั้น ก็นำมาขัดที่ผิวหน้า เน้นบริเวณที่เป็นจุดดำๆ ของรอยสิว จากนั้น จึงพอกหน้าทั้งไว้ประมาณ 10-15 นาที วิตามินอีที่อยู่ในแตงกวา นอกจากจะช่วยให้ผิวนุ่มแล้ว ยังช่วยในการลดรอยสิวได้เป็นอย่างดี
จริงๆแล้วมะนาวสามารถที่จะนำมาใช้ได้ตั้งแต่ตอนี่ยังเป็นสิวเลยทีเดียว เพียงแค่นำเอาน้ำมะนาวมาแต้มบริเวณที่เป็นสิว ก็จะช่วยให้หัวสิวลดลง แต่อาจจะแสบ และระคายเคืองสักหน่อยสำหรับบางคน จึงแนะนำว่ารอให้สิวหายก่อนแล้วค่อยนำเอาน้ำมะนาวมาพอกหน้า เพื่อให้หน้าขาวใสไร้รอยจะดีกว่า
ที่มีติดบ้านเอาไว้ในการทำขนมนั่นแหละ นำมาผสมน้ำ แล้วพอกหน้าเป็นประจำ จะช่วยในการลดความมันบนผิวหน้า และช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถนำมาขัดให้ผิวขาว ฟันขาวได้อีกด้วยเรียกว่าซื้อทีเดียวคุ้มมาก
นำเอากระเทียมมาปั่น แล้วกรองเอาแต่น้ำ อาจจะได้น้ำกระเทียมที่มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย แต่รับรองว่าหากนำมาแต้มบริเวณที่เป็นสิว หรือรอยสิวทิ้งไว้ 1 คืน เช้ามาหน้าของคุณจะกลับมาใสอย่างแน่นอน หรือหากทนกลิ่นไมได้จริงๆ ก็อาจจะแต้มไว้จนแห้ง แล้วล้างออกก็ได้
อันนี้เหมาะมากสำหรับคนที่เป็นสิวอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะช่วยในการรักษาสิว และอาการอักเสบของสิวแล้ว การนำน้ำผึ้งมาพอกหน้าเป็นประจำ จะช่วยในการรักษาแบคทีเรีย และเชื้อโรคไปในตัว ช่วยลดโอกาสที่จะเกิดสิวซ้ำได้อีกด้วย
วิธีการนำมาใช้ก็คล้ายกับเบคกิ้งโซดา คือ นำมาผสมน้ำ หรือน้ำผึ้งเพื่อพอกหน้า เพื่อลดสิว และนอกจากนี้ สำหรับหลายๆ คนอาจจะนำมาใช้ในการขัดผิวกายได้ด้วย แต่ไม่ควรนำมาขัดหน้า เพราะอาจจะทำให้เกิดเป็นแผลได้
นอกจากจะนำมาปั่นเพื่อขัดผิวแล้ว หลายคนที่เป็นสิวยังนำเอาข้าวโอ้ตมาพอกหน้าเพื่อรักษาสิว ได้อีกด้วย โดยการนำเอาข้าวโอ้ตมาต้มให้สุก แล้วรอให้อุ่นสักเล็กน้อย จากนั้น ก็นำมาพอกบริเวณที่เป็นสิว รอให้แห้ง แล้วจึงล้างออกเพียงแค่นี้ก็ช่วยให้หน้าใสได้แล้ว
วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับคนผิวบอบบาง เพราะอาจจะแพ้ได้ โดยการนำเอายาสีฟันมาพอกบริเวณที่เป็นสิวเอาไว้ 10 นาที จากนั้นค่อยล้างออก จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว และหายเร็วขึ้น
วิธีนี้เชื่อว่าหนุ่มๆ หลายคนอาจจะเคยลอง คือ การนำเอาครีมโกนหนวดมาพอกบริเวณที่เป็นสิว แล้วทิ้งเอาไว้สักพักจากนั้น ก็ล้างออก จะเห็นว่าสิวยุบทันใจทีเดียว
ว่านหางจระเข้ รักษาสิวได้ไหม ? เรื่องปัญหาผิว คงไม่มีใครมองข้ามผิวพรรณที่สุขภาพดี ดูเรียบเนียนมีน้ำมีนวลอยู่แล้ว การมีผิวที่ดีนับว่าเป็นทุนที่มีค่าอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามในสังคมปัจจุบันหากไร้การดูแล แน่นอนว่าผิวมีสิทธิ์เสื่อมสภาพกว่าวัยอันควรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมลภาวะทางอากาศและสภาพแวดล้อมปัจจุบันไม่เคยปราณีเลยแม้แต่น้อย ไหนจะเรื่องของความเครียดที่ส่งผลต่อฮอร์โมนและกล้ามเนื้อเสี่ยงต่อการเหี่ยวย่น แค่จะหลบให้พ้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้
กว่าจะรักษาให้กลับมาเหมือนเดิม แค่คิดก็ไม่รู้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกเท่าไร วันนี้เรามาปรับทัศนคติกันใหม่ ด้วยพืชมหัศจรรย์ที่สวนทางกับเรื่องราคาอย่างชัดเจน เพราะหาได้ตามรั้วหน้าบ้าน หรือจะปลูกเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งพืชที่เรากำลังจะพูดถึงนั่นก็คือ ว่านหางจระเข้ ที่นอกจากจะช่วยปกป้องปัญหาดังกล่าวให้หมดไป ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวไม่ด้อยไปกว่าการรักษาแบบเคมีจากคลินิกเลย
ว่านหางจระเข้ เริ่มมีบทบาทด้านความสวยงามตั้งแต่เมื่อไรไม่อาจทราบได้ แต่จากประวัติศาสตร์ที่มี เกิดขึ้นสมัยพระนางคลีโอพัตรา โดยชาวพื้นเมืองจะเรียกพืชชนิดนี้ว่า ไม้กายสิทธิ์จากสวรรค์ และพระนางนิยมนำพืชชนิดนี้มาใช้เพื่อรักษาความงามของพระองค์
ว่านหางจระเข้ รักษาสิวได้ไหม ? การใช้ว่านหางจระเข้อย่างได้ผลนั้น การเลือกวัตถุดิบถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้นที่เลือกจะต้องมีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป การใช้ให้ก่อประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องเริ่มจากใบล่างสุดก่อน หากใช้เพื่อการบำบัดผิวร่วมด้วย ควรแช่ในตู้เย็นจะทำให้สดชื่นขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ว่านหางจระเข้ที่ใช้จะต้องแช่น้ำให้ยางเหลืองหลุดออกก่อน และหลังจากปอกเปลือกควรใช้ทันที ไม่ควรทิ้งไว้เกิน 6 ชั่วโมง
เคล็ดลับการรักษาสิวอุดตัน ดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาดบนใบหน้า เลือกใช้เครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิว เพราะความสกปรกที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นการลืมล้างมือแล้วเอามือไปสัมผัสใบหน้า หรือบางคนมีผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย แต่ยังใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากน้ำหอม เอาจเป็นตัวการทำให้เกิดสิวได้ เลี่ยงการสัมผัส เช็ดถู หรือนวดหน้าแรงๆ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำให้มาก ๆ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีมลพิษ และสถานที่อับชื้น ฯลฯ หากรักษาแล้วแต่ยังไม่ได้ผล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะดีที่สุด เพราะเนื่องจากสิวอาจเกิดมาจากกรรมพันธุ์ก็ได้
หลีกเลี่ยงแสงแดดแสงแดดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าที่เป็น สิว อยู่แล้วเผชิญกับภาวะที่รุนแรงมากขึ้น หากเราไม่ป้องกันแสงแดดที่จะกระทบต่อผิวหน้าของเราโดยตรง โดยในระหว่างการใช้ยาทารักษาสิวอุดตันเราจำเป็นต้องทาครีมกันแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะผลิตภัณฑ์รักษาสิวส่วนใหญ่นั้นมักมีผลทำให้ผิวหน้าไวต่อแสง และที่สำคัญอย่าลืมล้างครีมกันแดดออกให้สะอาดหมดจด เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเกิดการอุดตันซ้ำซ้อนบนใบหน้าของเราได้จนรักษาไม่จบไม่สิ้นสักที
ควบคุมความมันบนใบหน้า เมื่อเราผ่านขั้นตอนการกำจัดสิวอุดตันออกมาจากผิวได้แล้ว สิ่งที่ควรทำอีกอย่างก็คือ ควรลดน้ำมันบนใบหน้าควบคู่ไปด้วย และอย่าให้อะไรมาอุดตันรูขุมขนของเราได้ ถ้าผิวหน้าไม่แพ้ AHA และ BHA เราอาจใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้เป็นประจำเพื่อช่วยในการป้องกันการเกิดสิวได้
สิวหัวดํา บีบไม่ออก ให้ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA และ BHA สำหรับใครที่ไม่สามารถใช้ Retinoids ได้ คุณอาจใช้สารสกัดประเภท AHA และ BHA ซึ่งยาเหล่านี้จะมีทั้งในรูปแบบโลชั่นและของเหลวให้เลือกใช้ แม้ว่ามันจะให้ผลช้ากว่า แต่ก็มีผลข้างเคียงน้อยกว่าด้วย โดยในส่วนของ AHA นั้นจะทำหน้าที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อเรากำจัดมันได้ ก็เหมือนเป็นการป้องกันการเกิดสิวไปได้ในตัว ส่วน BHA นั้นมันจะลงลึกเข้าไปในรูขุมขนเพื่อละลายไขมัน (ลดสิวอุดตันได้ในระดับปานกลาง) คนที่ใช้ BHA เป็นประจำจึงทำให้สิวอุดตันจะถามหาได้ยากมาก แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้สิวที่แข็งตัวนั้นหลุดออกมาได้ก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้มันอ่อนตัวและเอาออกมาได้โดยง่าย
รักษา สิวหัวดําที่จมูก ด้วยการลอกหน้าผลัดเซลล์ผิว (Chemical Peeling) ด้วยการใช้น้ำยาเคมีนำมาทาบนผิวหน้าเพื่อทำให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวชั้นบน ตามด้วย การสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยสารเคมีที่นิยมนำมาใช้ก็ได้แก่ AHA, BHA, TCA หรือ Trichloroacetic acid 10-30%, Phenol (carbolic acid), Jessner’s solution เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้สิวอุดตันฝ่อตัวและหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการใช้วิธีนี้มักจะได้ผลในระยะเวลาสั้น ๆ โดยคุณอาจต้องทายาร่วมด้วยเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก
ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ทีนี้เชื่อว่าหลายคนคงรู้แล้วว่า สิวขึ้นที่คางเกิดจากอะไร ? อยากสวยต้องหมั่นดูแลตัวเองเข้าไว้ ไม่งั้นคุณผู้ชายอาจจะสวยกว่า ใครซักคนได้กล่าวไว้ วันนี้แอดมินขอตัวลาไปเขียนบทความใหม่ๆก่อนนะคะ อ้อ!..ผลลัพธ์เป็นยังไงกลับมาบอกกันบ้างนะคะสาว ๆ เพราะแอดมินลองแล้วได้ผลหลายวิธีเลยนะ นอกจากนี้การจัดการกับสิว และรอยสิวนั้นจะเห็นว่าไม่ได้ยากเลย เพียงแต่ต้องดูแลความสะอาดของใบหน้าด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วสิวอาจจะกลับมาใหม่ได้
อ้างอิง :