เป็นสิวที่จมูก แก้อย่างไร? รวมวิธีกำจัดสิวให้อยู่หมัด

เป็นสิวที่จมูก วิธีรักษาที่คุณควรรู้ ปัญหาเรื่องความสวยความงามของผู้หญิงจัดได้ว่าเป็นวาระแห่งชาติที่สร้างปัญหาปวดหัวกับการหาวิธีมากำจัดพวกสิวเสี้ยนดำๆตามจุดต่างๆบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณจมูก ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดเด่นที่สุดบนใบหน้าเห็นได้ชัดเจนกว่าส่วนอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนยังแก้ไม่ตก เพราะมันฝังลึกและจะอยู่อย่างถาวร

ถึงแม้ว่าสิวเสี้ยนจะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือทำให้ร่างกายเจ็บปวดแต่อย่างใด สาวๆบางคนจึงเลือกใช้วิธีทาจำพวกครีมรองพื้นปิดบังเอาไว้ การกระทำเช่นนี้ยิ่งอาจทำให้สิวเสี้ยนกลับกลายเป็นสิวอักเสบในอนาคต

ฉะนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมสูตรเด็ดสำหรับกำจัดสิวเสี้ยนที่จมูกมาให้สาวๆทดลองทำตาม บอกได้คำเดียวว่าไม่ยาก!! หากชอบสูตรไหนก็หยิบไปใช้ได้ตามสบายเลย..คร่าาา 

1. เป็นสิวที่จมูก แก้ด้วยน้ำผึ้ง

สาวๆทราบกันหรือไม่ว่าในน้ำผึ้งนั้น ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณมากมาย แถมมีความอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือต้องทนเหนียวไปสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอนเพราะน้ำผึ้งเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพต่อการกำจัดสิวเสี้ยนบนจมูกได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วนขั้นตอนก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่เทน้ำผึ้งลงในปริมาณเล็กน้อยลงไปบนนิ้ว แล้วค่อยๆตบลงไปบริเวณที่มีสิวเสี้ยน ไม่ว่าจะเป็นสันจมูก หรือบริเวณใบหน้าส่วนๆอื่นๆ โดยทาทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีจึงค่อยล้างออก น้ำผึ้งจะทำหน้าที่ยึดติดอยู่กับในรูขุมขน ช่วยทำให้ดึงสิ่งสกปรกออกมาได้โดยง่ายในระหว่างที่เราเอานิ้วมือค่อยๆขัดถูก

ไม่เพียงเท่านั้นน้ำผึ้งยังช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

2. ไข่ขาว

เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวจมูกที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง แต่อาจจะต้องใช้ความอดทนกับกลิ่นคาวของไข่ขาวสักเล็กน้อย แต่รับรองว่าเจ้าไข่ขาวจะเป็นตัวช่วยในการกำจัดสิวบนจมูกได้ดีที่สุด

เพียงแค่ตอกไข่แล้วคัดแยกส่วนเอาแต่ไข่ขาวออกมาใส่ภาชนะพักไว้ก่อน จากนั้นก็ทำความสะอาดใบหน้าให้เกลี้ยง แล้วจึงเริ่มใช้ไข่ขาวพอกลงไปให้ทั่วหน้า และอย่าลืมเว้นช่วงรอบดวงตาไว้ด้วยคะ หรือจะใช้พู่กันในการพอกหน้าช่วยด้วยก็ได้เช่นกัน เมื่อพอกหน้าจนทั่วแล้วให้ทิ้งไว้จนแห้งแล้วค่อยทาไข่ขาวลงไปอีกชั้นหนึ่ง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้แห้งสนิทประมาณ 15 นาที

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าหน้าตึงๆแล้ว ก็ให้ใช้น้ำอุ่นค่อยๆถูให้ไข่ขาวออกจากใบหน้า เน้นว่าควรถูเบาๆไม่อย่างนั้นหน้าของสาวๆได้ถลอกก่อนที่ได้จะได้ผิวหน้าเนียนนุ่ม แล้วจะหาว่าไม่เตือนน๊า

3. มะนาว แปรงสีฟัน และน้ำมันโจโจ้บารักษาการ เป็นสิวที่จมูก

หากว่า 2 วิธีธรรมชาติข้างต้นยังไม่เห็นผลลัพธ์เสียเท่าไหร่ ต้องมาลองวิธีนี้กันดูดีกว่าคะ แต่ขอเตือนก่อนว่าวิธีนี้จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบีบเค้นเอาสิวเสี้ยนออกมา เพราะจะยิ่งทำให้ผิวได้รับความอักเสบเพิ่มมากขึ้น โดยเริ่มจากการนำแปรงสีฟันที่เป็นชนิดขนแปรงอ่อนนุ่มพิเศษ

นำน้ำมะนาวเล็กน้อยมาบีบลงไปบนแปรงสีฟัน พร้อมกับเทน้ำโจโจ้บาลงไปด้วย (หรือใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์) แล้วถูไปบริเวณที่เกิดสิวเสี้ยน ค่อยๆขัดด้วยแปรงอย่างเบามือเป็นวงกลม เมื่อส่วนผสมบนแปรงเริ่มหมดลงก็ให้ล้างออกจนสะอาด แล้วก็บีบน้ำมะนาวผสมโจโจ้บาลงไปอีกครั้ง ทำแบบเดิมจนสังเกตดูว่าสิวเสี้ยนเริ่มหลุดออก ซึ่งวิธีนี้ทำเพียงสัปดาห์ละครั้ง โดยห้ามถูบริเวณรอบดวงตาเด็ดขาด

4. เป็นสิวที่จมูก ใช้ชาเขียว

หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของชาเขียวนอกจากรสชาติที่มีเอกลักษณ์แล้ว ในชาเขียวยังมีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินในผิวซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดสิวที่จมูกได้ ด้วยการแช่ชาเขียว 2 ถุงลงในน้ำร้อน 1 แก้ว ทิ้งไว้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง รอจนเย็น แล้วนำสำลีชุบน้ำเขียวตบๆลงไปตรงที่มีสิว ปล่อยไว้ให้แห้ง

หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่า หมั่นทำบ่อยๆเท่านี้ก็รักษาสิวที่จมูกได้แล้วล่ะ

5. ข้าวโอ๊ต

สรรพคุณของข้าวโอ๊ตจะช่วยให้รูขุมขนสะอาด ซึมซับน้ำมัน และป้องกันการปรากฎของสิวหัวดำบริเวณจมูกได้เป็นอย่างดี โดยผสมข้าวโอ๊ต 2 ช้อนโต๊ะ + โยเกิร์ตธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาวและน้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าเน้นตรงจุดที่เป็นสิว ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเย็น

6. เป็นสิวที่จมูก ใช้วาสลีน

นำเอาวาสลีนมาทาให้หนาๆบนจมูก แล้วใช้นิ้วมือทานวดวนรอบๆจมูกและบริเวณที่มีสิวหัวดำให้ทั่ว เพื่ออุ่นเนื้อครีมให้ร้อน หลังจากนั้นก็นำถุงพลาสติกใสมาแปะทับ แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นมาปิดทับลงไปอีกชั้นเพื่อเพิ่มความร้อน แล้วก็เท่ากับเป็นการเปิดรูขุมขนทำให้สิวหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นค่อยเอาสำลีเช็ดออกให้หมดและสุดท้ายก็ล้างหน้าให้สะอาดตามปกติ

เป็นสิวที่จมูก รวมวิธีกำจัดสิวเสี้ยนจมูกให้อยู่หมัด

เป็นสิวที่จมูก วิธีกําจัด “สิวเสี่ยน” ตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขนมีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำ และมีกระจุกขนเล็กๆหลายเส้น แทรกอยู่ในหัวสิวอุดตันนั้นด้วย มีลักษณะเป็นจุดดำๆ เล็กๆ เหมือนมีหนามแหลมๆ ยื่นออกมาจากรูขุมขน ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณปลายจมูก หน้าผาก ข้างแก้มหรือบริเวณคาง

สิวเสี้ยน คือ

สิวเสี้ยน ในความหมายนี้คือกระจุกของเส้นขนอ่อนเล็กๆ หลายสิบเส้น และเซลผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันอยู่ในรูขุมขนที่ไม่หลุดออกตามวงจรผิว

อีกลักษณะหนึ่งคือก้อนไขมันอุดตัน โดยปกติท่อต่อมไขมันและรูเปิดของรูขุมขนจะเชื่อมต่อกัน เมื่อต่อมไขมันผลิตไขมันแล้วก็จะออกมาตามรูขุมขน ทำหน้าที่ฉาบเคลือบผิวหนังด้านนอกให้มีความชุ่มชื้น แต่ถ้าผลิตออกมามากเกินก็เกิดเป็นก้อนอุดตันขึ้นมาในท่อรูขุมขน เรียกว่า ก้อนไขมันอุดตัน สำหรับผิวบางคนที่รูขุมขนไม่เปิด ก็จะเห็นเป็นสิวหัวขาวในผิว ซึ่งมีวิธีการจัดการกับปัญหาสิวเสี้ยนหลากหลายวิธีด้วยกัน วันนี้แอดมินจะมาเผยเคล็ดลับการรักษาสิวเสี้ยนให้ได้ผลชะงักกันค่ะ

วิธีการรักษาสิวเสี้ยน เป็นสิวที่จมูก

1 . การทายารักษาสิวเสี้ยน

1.1 ยารักษาสิวเสี้ยน ใช้กรดวิตามินเอ (retinoic acid) มีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณรูขุมขน จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่ และทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกได้ง่าย แต่มีข้อควรระวังคือ กรดวิตามินเอ มักจะก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิวหนังได้ง่าย อาจทำให้ผิวแห้ง แสบและลอก หน้าแดง จึงควรทากรดวิตามินเอ เฉพาะบริเวณจมูก หน้าผาก หรือคางที่มีสิวเสี้ยน โดยทาวันละครั้งก่อนนอน บางรายอาจทำให้มีสิวมากขึ้นในช่วง สัปดาห์แรกของการใช้ยา แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่าSPFตั้งแต่35ขึ้นไป เพราะการทากรดวิตามินเอทำให้ผิวหน้าไวต่อแดด และก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหน้าได้

1.2 ใช้ ยาทารักษาสิวเสี้ยน กลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) โดยทาทั่วหน้าก่อนล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น หรือก่อนนอน แล้วทิ้งไว้ 5 -10 นาที หรืออาจทิ้งไว้นานกว่านี้ได้ แล้วจึงล้างหน้าออกด้วยน้ำสะอาด ยานี้ออกฤทธิ์โดยลดปริมาณไขมันที่ผิวหนัง และช่วยละลายสิ่งสกปรกที่อุดตัน จึงลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ สามารถใช้ร่วมกับยาแต้มสิวหลังจากล้างออก เพื่อเพิ่ทประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อโรคในสิว แต่ผลของยาอาจทำให้หน้าแดง แสบ แห้งเป็นขุย ควรเริ่มต้นที่ความเข้มข้นต่ำก่อนๆจะดีกว่า

2 . วิธีกําจัดสิวเสี้ยน ด้วย Laser

วิธีกําจัดสิวเสี้ยน ด้วย Laser วิธีนี้นับว่าเป็นวิธีที่ได้ผลมาก หลังจากที่เลเซอร์แล้วจะสังเกตได้ว่าจุดดำจากสิวเสี้ยนหายไปเกือบหมด โดยแนะนำเป็น Laser IPL / Non-Q-Switch Ruby Laser หลังจากยิงเลเซอร์ ขนเส้นเล็ก ๆ จะหายไป รากขนจะถูกกำจัดไปด้วย พอไม่มีขนอุดตันในรูขุมขน ผลที่ตามมาคือรูขุมขนเราจะกระชับขึ้น แต่วิธีนี้ก็รักษาได้แค่ชั่วคราวนะคะ สักระยะนึงก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้

3 . กดสิวเสี้ยน

การ กดสิวเสี้ยน วิธีนี้เป็นการเอาออกแบบตรงๆเลยค่ะ บางท่านใช้การบีบ การกดซึ่งก็ทำให้ไขมันถูกดันออกมาพร้อมเส้นขนได้เหมือนกันแต่วิธีนี้ก็ต้องระมัดระวังความสะอาดและการบีบกดที่รุนแรงเกินไปด้วยนะคะ อาจจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง ติดเชื้อตามมาได้

4 . การรักษาสิวเสี้ยน

การรักษาสิวเสี่ยน การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้(AHA, TCA) เป็นการทำให้เซลล์ผิวชั้นบนที่เสื่อมสภาพหลุดออก เปิดทางของรูขุมขนให้สามารถหลุดออกมาได้ และการใช้สารเหล่านี้ควรใช้เปอร์เซนต์ที่ค่อนข้างต่ำแต่ใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้วงจรการผลัดผิวเป็นไปตามกลไกที่ถูกต้อง ผลที่ได้คือใบหน้าจะเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น สิวเสี่ยนน้อยลง วิธีนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร (แต่บางครั้งถ้าเราไปทำที่คลีนิคมักจะใช้เปอร์เซนต์ที่สูงซึ่งทำให้เห็นผลเร็วกว่าแต่ไม่สามารถทำต่อเนื่องทุกวันได้และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น)

5 . กําจัดสิวเสื้ยน ด้วยการสครับผิว

กําจัดสิวเสื้ยน ด้วยการสครับผิว ก็เป็นอีกวิธีนึงที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกับการใช้กรดผลไม้ คือเป็นการลอกเอาเซลล์ผิวหนังชั้นขี้ไคลให้หลุดออก วิธีสครับจะให้ผลในทันที แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทุกวัน โดยเว้นระยะประมาณสัปดาห์ละ1ครั้งเป็นอย่างน้อย การเลือกสครับก็มีความสำคัญเราควรเลือกสครับที่มีเม็ดสครับละเอียด กลมมน มีจำนวนมากพอต่อการขัดเซลล์ผิว ซึ่งถ้าเราไปใช้เม็ดที่เป็นเหลี่ยมคมก็ยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง เสี่ยงต่อการเกิดสิวเสี่ยนที่มากขึ้น แถมยังงก่อให้เกิดรอยขีดข่วนเล็กๆบนใบหน้าอีกด้วย

เป็นสิวที่จมูก วิธีรักษาหลุมสิวที่จมูก แบบปลอดภัยจากธรรมชาติ 100%

วิธีรักษา หลุมสิวที่จมูก แก้หลุมสิวแบบปลอดภัยจากธรรมชาติ 100% ปัญหาหนักอกหนักใจสุดๆของสาวๆคงไม่พ้นปัญหาสิวผุดขึ้นบนใบหน้า แต่ยังไม่น่าหนักใจเท่าเวลาที่สิวหายนั่นก็คือ “รอยหลุมสิว” ซึ่งรอยหลุมสิวที่ว่านี้เกิดขึ้นมาจากการที่สาวๆปล่อยให้สิวอักเสบจนเกิดการลุกลามจนกินเนื้อลึกลงไปถึงชั้นใต้ผิวหนัง

เมื่อใช้มือบีบสิวออก หรือได้รับการรักษาแบบวิธี รวมทั้งปล่อยเอาไว้จนหายเองโดยไม่ไปรักษาจนส่งผลให้หนองเริ่มกัดเซาะไปบนผิวหนังให้หลุดหายไป ผลสุดท้ายก็จะทำให้ผิวเกิดการยุบตัวลง และมีรอยพังผืดบริเวณใต้รอยแผลเป็นสุดท้ายใบหน้าสวยงามของสาวๆก็จะเป็นหลุมเป็นบ่อละหม้ายคลายพื้นผิวบนดวงจันทร์

ซึ่งปัญหานี้หากใครเป็นแล้วจะรักษาหายยาก แถมกว่าจะหายได้ก็ต้องใช้เวลาที่นานมากๆๆ แต่อย่าเพิ่งกังวลไปเพราะเรามีเคล็ดลับเด็ดๆที่จะมาช่วยรักษาให้กับสาวๆคะ 

ก่อนอื่น เราควรรู้ก่อนว่าระดับความรุนแรงของหลุมสิว แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

– หลุมสิวระดับ Rolling scar เป็นระดับทั่วไป สามารถรักษาได้ง่ายกว่าในระดับอื่นๆ ลักษณะจะเป็นหลุมสิวขนาดตื้นๆ ที่กินผิวพื้นที่ส่วนบนเพียงเล็กน้อย ซึ่งมักจะเกิดจากพฤติกรรมการแกะสิวที่อยู่ในระดับไม่ลึกมาก

– หลุมสิวระดับ Box scar ระดับนี้จะอยู่ในระดับปานกลาง โดยจะเห็นเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างชัดเจนและกินขอบเขตกว้างกว่าในระดับแรก แต่ก็ยังคงมีความตื้นมากกว่า เพราะกินความลึกเพียงแค่ชั้นผิวเท่านั้นยังไม่ลงลึกไปถึงระดับรูขุมขน แต่การรักษาก็จะค่อนข้างยากสักหน่อย หากรักษาและดูแลเป็นอย่างดีก็จะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

– หลุมสิวระดับ Ice pick scar ระดับนี้จัดได้ว่าเป็นระดับที่รุนแรงสุดๆ โดยจะมีลักษณะเป็นปากแคบไปในทางลึก ซึ่งทำให้การรักษาได้ยากมาก และใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ หรืออาจทำได้แค่เพียงให้รอยหลุมดูตื้นขึ้นมาแค่นั้น

ส่วนวิธีในการรักษาหลุมสิวอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการรักษา แต่ทว่าหากปฎิบัติและทำการรักษาอยู่เป็นปะจำ มั่นใจได้เลยว่ารอยหลุมสิวก็จะค่อยๆจางลงจนสุดท้ายก็หายไปในที่สุด โดยวิธีแก้รูขุมขนกว้าง การรักษาก็มีให้เลือกอยู่หลายวิธีด้วยกัน บางคนอาจจะเลือกพึ่งพาทางการแพทย์เช่น การทำเลเซอร์ ฉีดฟิลเลอร์

ซึ่งมักจะเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผล แต่ต้องทำใจว่ามีราคาที่สูงเอาการเลยทีเดียว ซึ่งหากว่าสาวๆไม่อยากที่จะต้องเสียเงินก็ยังมีวิธีรักษาหลุมสิวในแบบธรรมชาติอีกด้วย คราวนี้มาดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้าง เพื่อให้สาวๆมีผิวใสเรียบเนียนสวย

เป็นสิวที่จมูก รวม 4 วิธีการรักษาหลุมสิวแบบปลอดภัยจากธรรมชาติ 100%

1. เป็นสิวที่จมูก ใช้น้ำมะนาวและหอมแดง

นำหอมแดงมาฝานให้เป็นแผ่นบางๆแล้วทุบจนให้น้ำมันหอมระเหยออกมา หลังจากนั้นก็บีบน้ำมะนาวด้วยการให้หยดใส่ลงไปเล็กน้อย พร้อมกับทาลงไปบนรอยหลุมสิวและรอยสิวดำๆ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด

หากว่าสาวๆทำสูตรนี้เป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รอยหลุมสิวที่อยู่บนใบหน้าก็จะค่อยๆๆจางลงคืนผิวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะในหอมแดงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

สามารถช่วยฟื้นฟูรอยหลุมสิวในขณะที่น้ำมะนาวเองก็มีกรด AHA จากธรรมชาติสูงจึงทำให้แก้ปัญหารอยหลุมสิวได้เป็นอย่างดี

2. มะละกอสุก

กรณีที่สาวๆเกิดปัญหารอยหลุมสิวแบบที่ไม่ลึกมาก แนะนำว่าควรใช้เป็นมะละกอสุกพอกหน้าจะช่วยได้เป็นอย่างมาก เพราะในมะละกอสุกมีสารเอ็นไซม์ที่จะเป็นตัวกระตุ้นเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดลอกออกมา

แถมยังเป็นตัวช่วยสมานรอยของหลุมสิวด้วยสาเหตุนี้มะละกอสุกจึงถือได้ว่าเป็นผลไม้วิเศษที่รักษารอยหลุมสิวได้อย่างชะงักนัก สำหรับวิธีการรักษาไม่ใช่เรื่องยากเลยเพียงแค่นำเนื้อมะละกอมาบดให้ละเอียด

หลังจากนั้นนำมาพอกหน้า 15-20 นาที ล้องออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำว่าควรทำเป็นประจำรับรองได้ว่ารอยหลุมสิวทั้งรอยเก่าและรอยใหม่จะจางลง เผยผิวให้ขาวกระจ่างใสอย่างชัดเจน

3. ว่านหางจระเข้

หลายคนคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าสมุนไพรว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาสิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น และนอกจากนั้นยังมีกรดอ่อนๆช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกมาแถมด้วยคุณสมบัติพิเศษในการสมานผิว

ช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการหดตัวพร้อมกับช่วยป้องกันการอักเสบ วิธีการก็แค่ใช้วุ้นใสๆของว่านหางจระเข้มาทาลงไปที่บนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก สามาถทำได้เป็นประจำ

หากใช้สูตรนี้ไม่เพียงแค่รอยสิวจะจางลงเท่านั้น แต่ยังเข้าไปช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพเนียนใสสวยงามอีกด้วย

4. ใบบัวบก

ข้อดีของสมุนไพรใบบัวบกไม่ใช่เพียงแก้ช้ำในเท่านั้นยังมีคุณสมบัติในการรักษาสิว ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวได้เป็นอย่างดีจึงส่งผลให้รอยแผลและรอยหลุมสิวให้ได้รับการฟื้นฟูให้มีสภาพที่ดีขึ้น

ส่วนวิธีการก็ให้นำใบบัวบกประมาณ 1 กำมือมาปั่นให้ละเอียดแล้วพอกลงไปบนใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีแล้วล้างหน้าให้สะอาดอีกครั้ง แนะนำว่าควรพอกหน้าด้วยสูตรใบบัวบกบ่อยๆก็จะทำให้รอยหลุมสิวเหล่านี้จางลงพร้อมกับฟื้นฟูจนผิวมีสภาพดีมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าลองใช้วิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์เป็นที่พอใจก็ควรหยุดแล้วหาวิธีอื่นทดแทน เนื่องจากสภาพผิวหน้าของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกัน หรือเมื่อทดลองทำแล้วได้ผลดีก็ไม่ควรทำมากจนเกินไปเพราะอาจจะเป็นการทำร้ายผิวแทนก็ได้ เท่านี้ก็ลด เป็นสิวที่จมูก ได้แล้ว

อ้างอิง : 

• Causes of acne on the nose and how to treat it : https://www.vinmec.com/en/news/health-news/beauty/causes-of-acne-on-the-nose-and-how-to-treat-it/ 

• What Causes Nose Acne and How Can I Treat It? : https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/nose-acne#_noHeaderPrefixedContent 

• 7 Best Ways to Avoid Nose Acne : https://www.acnestar.com/blog/7-best-ways-to-avoid-nose-acne

• How do you get rid of acne around your nose? : https://www.medicalnewstoday.com/articles/320972

• 6 Easy DIY Remedies To Get Rid Of Pimples On The Nose : https://www.stylecraze.com/articles/simple-ways-to-remove-pimples-on-the-nose/

• Facebook
• X
• Line