10 วิธี ลบรอยแผลเป็น ที่ดีที่สุด การลบรอยแผลเป็นให้ได้ผลจริง

10 วิธี ลบรอยแผลเป็น ที่ดีที่สุด การลบรอยแผลเป็นให้ได้ผลจริง

10 วิธี ลบรอยแผลเป็น ที่ดีที่สุด การลบรอยแผลเป็นให้ได้ผลจริง บอกได้คำเดียวว่าสิ่งที่สาวๆปวดใจสุด!!! คงไม่พ้นรอยแผลเป็นเด่นหราโชว์อวดท้าทายสายตาของผู้อื่นให้เป็นจุดสนใจ

และคุณสาวๆก็ทราบกันดีว่าเจ้าพวกรอยแผลเป็นเหล่านี้กว่าจะจางหายได้ใช้เวลานานมาก ก.ไก่ล้านตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาไปไม่น้อย แถมยังเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหากเลือกใช้วิธีการรักษาที่มีส่วนผสมของสารเคมี

ส่วนการลบรอยแผลเป็นสามารถใช้วิธีการรักษาด้วยธรรมชาติ เพื่อไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าพร้อมสร้างเซลล์ผิวใหม่บริเวณที่เกิดรอยแผลเป็น ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวม 10 วิธีลบรอยแผลเป็นมาฝากสาวๆกันคะรับรองว่าแต่ละวิธีสามารถทำตามได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก — ลบรอยแผลเป็น

1. ผงไม้จันทน์

คุณสมบัติของผงไม้จันทน์คือช่วยรักษารอยแผลเป็นให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ด้วยการผสมผงไม้จันทน์จำนวนประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่าส่วนหนึ่งผสมให้ข้นจนเป็นเนื้อเดียวกัน

จากนั้นนำมาพอกบนรอยแผลเป็นทิ้งไว้ 1 คืน แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำเป็นประจำทุกวันแค่ 1-2 เดือนแผลเป็นนูนค่อยๆเล็กลงเอง

2. ใบบัวบก

นอกจากแก้ช้ำในแล้ว ยังช่วยสมานแผลเร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไว แถมยังลดรอยแผลเป็นได้ดีอีกด้วย เพียงแค่ใช้ใบบัวบกสดๆประมาณ 1 กำมือ ล้างให้สะอาดแล้วตำให้ละเอียด

คั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณแผลเป็นนอกจากจะทำให้แผลหายสนิท ยังช่วยให้รอยแผลเป็นนูนค่อยๆจางลงจนสัมผัสได้ ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของใบบัวบก เป็นหนึ่งในอาหารที่มีคอลลาเจนสูง ทำให้ร่างกายผลิตอิลาสติและชั้นผิวใหม่ สมานรอยแผลเป็นให้จางไว

3. น้ำมันมัสตาร์ด

มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อราและต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงมีความพิเศษสามารถลดขนาดของแผลเป็นที่นูนแดงได้เป็นอย่างดี โดยการนำน้ำมันมัสตาร์ดมาทาบนรอยแผลวันละประมาณ 3 ครั้ง หรือถ้าหากในพื้นที่ของคุณไม่มี เราแนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกแทน ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน

4. ว่านหางจระเข้

สุดยอดของสมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพในการช่วยให้สาวๆสามารถลบรอยแผลเป็นให้ได้เห็นผลดี โดยเฉพาะในแผลเป็นที่เกิดขึ้นมาใหม่ ว่านหางจระเข้จะช่วยฟื้นฟูบาดแผล แถมช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น จากความที่มันมีฤทธิ์เย็นจึงช่วยลดอาการแสบร้อน และอาการคันลงได้

ขั้นตอนการใช้คือนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาลงไปที่บริเวณแผลเป็น แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเพื่อให้ตัวยาค่อยๆซึมลงสู่ผิว ฉะนั้นสามารถที่จะทำซ้ำกันได้วันละหลายครั้ง ผ่านไปสักระยะจะสัมผัสได้ว่าแผลเป็นจะนูนนิ่มขึ้น มีขนาดเล็กและจางลงในที่สุด

5. น้ำมะนาว

น้ำมะนาวอุดมไปด้วยกรดวิตามินซีมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยทำให้แผลเป็นนูนอ่อนนุ่มลง และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลบรอยแผลเป็นต่างๆ วิธีใช้ก็เพียงนำน้ำมะนาวจำนวนหนึ่ง ทาไปบริเวณที่เป็นแผลเป็น ทิ้งไว้โดยประมาณ 30 นาที

หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นเช็ดให้แห้ง ตามด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเป็นเวลา 1 เดือน จะช่วยให้แผลเป็นนูนค่อยๆจางลง

6. แอปเปิ้ลไซเดอร์

หรือที่เรียกว่าน้ำส้มสายชูหมักมีสรรพคุณในการลบรอยแผลเป็นได้ดี ด้วยการผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่เนียนนุ่มขึ้น เพียงแค่นำสำลีจุ่มลงไปในน้ำส้มสายชู หรือหากเกรงว่าจะเข้มข้นเกินไปก็อาจผสมน้ำเปล่าเข้าไปเล็กน้อย

จากนั้นก็ทาลงไปที่รอยแผลเป็นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วค่อยล้างออก และทาซ้ำประมาณวันละ 3-4 ครั้ง ต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์จะรู้สึกถึงแผลเป็นนูนเริ่มเล็กลง

7. กระเทียม

คุณสมบัติหลักของกระเทียมคือช่วยป้องกันเชื้อรา ฆ่าเชื้อโรค แถมช่วยต้านการอักเสบของบาดแผล และลดขนาดของแผลเป็นนูนได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแค่นำกระเทียมมาบดให้ละเอียดแล้วไปพอกทิ้งไว้ตรงบริเวณรอยแผลเป็น ประมาณ 15 นาที

ตามด้วยล้างออกด้วยน้ำอุ่นเช็ดผิวให้แห้ง แล้วทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงผิวอีกครั้งทำวันละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน จะช่วยให้ลบรอยแผลเป็นนูนดูเล็กลง

8. หอมหัวใหญ่

มักนิยมนำมาใช้เป็นสารสกัดในการลบรอยแผลเป็นมากที่สุด นั่นเป็นเพราะในหัวหอมเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติพิเศษในการสร้างเนื้อเยื่อ ด้วยการนำหัวหอมมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ

จากนั้นก็ใส่ในผ้าขาวบางแล้วบดให้ละเอียดจนได้เป็นน้ำหัวหอมใหญ่ หลังจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำหัวหอมแต้มไปที่แผลเป็น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่ารอยแผลเป็นนูนค่อยๆดีขึ้น

9. น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งบริสุทธิ์จัดได้ว่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ของธรรมชาติที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แล้วยังช่วยลดรอยแผลเป็น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

ที่สำคัญยังป้องกันไม่ให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมามากเกินจำเป็น เพียงนำน้ำผึ้งดิบมาทาบริเวณแผลเป็น หลังจากนั้นก็นวดวนเป็นวงกลมประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง

10. น้ำมันลาเวนเดอร์

ไม่ได้มีดีแค่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย หรือบำบัดให้หายจากความเหนื่อยล้า ยังช่วยในการรักษารอยแผลเป็นจากการฆ่าเชื้อโรคที่ผิวหนัง ด้วยการใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ทาลงไปบนบริเวณที่เป็นรอยแผลเป็นและนวดเบาๆเพื่อให้น้ำมันสามารถซึมลงสู่ผิวได้

การเลือกวิธีแบบธรรมชาติ อาจจะต้องใช้เวลาในการลบรอยแผลเป็นสักระยะขึ้นอยู่กับว่าสภาพแผลเป็นของแต่ละคนว่ามีรูปแบบอย่างไร ทั้งนี้ต้องทำใจไว้ด้วยว่ารอยแผลเป็นจะไม่จางหายได้เด็ดขาด 100% เพียงแต่จะดีขึ้นจนไม่เป็นจุดสนใจต่อสายตาคนอื่นคะ และยังปลอดภัยแบบสุดๆอีกต่างหาก

• Facebook
• X
• Line