ยาแต้มสิวที่ดีที่สุด ใช้แล้วสิวยุบ หน้าหายพัง เร่งด่วน เมื่อใบหน้าของสาว ๆ เริ่มมีเจ้าสิวอักเสบตัวร้ายผุดขึ้นมาบนใบหน้า สิ่งแรกที่นึกถึงคงไม่พ้นการหาตัวช่วย “ยาแต้มสิว” ที่จะเป็นฮีโร่ช่วยให้สิวบนใบหน้ายุบหาย เพราะถ้าหากไม่รีบจัดการแล้วล่ะก็ เห็นที่จะไม่หายกลุ้มใจกับเจ้าสิวตัวปัญหาไปอีกนานแสนนาน
แถมเมื่อสิวยุบลงแล้วก็ยังทิ้งรอยแดงเอาไว้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูยาแต้มสิวเด็ด ๆ ที่สาว ๆ ส่วนใหญ่บอกต่อกันมาว่าเทพสุด ๆ เลยล่ะ
สาเหตุของสิว ก่อนอื่นเรามาดูสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดสิวกันก่อน ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว สิวนั้นเกิดจาก การที่ต่อมไขมันทำการสร้างน้ำมันมากเกินไปนั่นเอง โดยสิ่งที่ควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้าก็คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgen) เมื่อเจ้าต่อมนี้ผลิตน้ำมันออกมาเยอะจนเหลือใช้แล้วตกค้างอยู่ในรูขุมขน มันก็จะไปรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
เหตุนี้เองจึงทำให้น้ำมันนั้นข้นหนืดจนระบายออกไปไม่ได้ และทำให้เกิดสิวอุดตัน นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ประกอบด้วยอาทิเช่น ความเครียด ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในช่วงใกล้หมดประจำเดือน การแพ้เครื่องสำอาง ปัญหาผิวแพ้ง่าย การล้างหน้าไม่สะอาด เป็นต้น เรามาดูกันว่า ยาแต้มสิวที่ดีที่สุด จะมียี่ห้ออะไรบ้าง
ยาแต้มสิวที่สาว ๆ ยกให้เป็นอันดับหนึ่ง เวลาจัดลำดับยาแต้มสิวเมื่อไหร่จะต้องมีชื่อยาตัวนี้อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ตัวยาที่สำคัญออกฤทธิ์คือ Clindamycin มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งคือต้นเหตุของการเกิดสิว ตัวผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำ ใช้แต้มยาบริเวณหัวสิวที่อักเสบหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยไม่ต้องล้างออก ทำให้ลดการอักเสบของสิวได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่ไม่สามารถลดการอุดตันของสิวได้ จึงไม่ควรทา Clinda m ต่อเนื่องนานเกินไป เพราะ Clinda เป็นยาปฎิชีวนะเมื่อทาไปนาน ๆ เชื้อสิวอาจดื้อยาได้ นิยมทาคู่ไปกับ BP (Benzoyl peroxide) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยา
ผลิตขึ้นจากโรงพยาบาลยันฮีโดยตรง มีส่วนผสมของกรด salicylic ช่วยในการผลัดเซลล์ ลดการอุดตัน sulphur ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองของผิว จึงส่งผลให้ยาแต้มสิวตัวนี้น่าใช้มากอีกตัวหนึ่ง
ยารักษาสิวอุดตันยอดนิยมของคนไทย ที่ได้รับความนิยมจากห้องโต๊ะเครื่องแป้งของ Pantip มีส่วนผสมหลัก ๆ อยู่ 3 ตัวด้วยกัน คือ
– Resorcinol 1% ช่วยลดการอุดตัน ผลัดผิวชั้นบน
– Salicylic Acid 1% หรือ BHA ช่วยลดการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ
– Zinc Oxide 6.7% ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ปกป้องผิวจากแสงแดดช่วยทำให้สิวยุบ ได้เป็นอย่างดี
คือยาแต้มสิวอักเสบที่ใช้ตัวยาเดียวกันกับ Clinda m เพราะอย่างนั้นสรรพคุณในการออกฤทธิ์ ผลข้างเคียงและขั้นตอนการใช้จึงเหมือนกัน เพียงแค่ต่างยี่ห้อกันรวมทั้งตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ Clindalin gel จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจล ซึ่งคนส่วนใหญ่จะชอบมากกว่า Clinda m เพราะเวลาที่ทาลงไปจะรู้สึกเนื้อเจลติดที่หัวสิวทนกว่าแบบน้ำ ส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากกว่านั้นเอง
ด้วยตัวยา erythromycin มีสรรพคุณในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงลดการอักเสบ และลดการติดเชื้อของหนองสิว ส่วนขั้นตอนการใช้ให้แต้มยาบริเวณหัวสิวที่อักเสบหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก ซึ่งยา Eryacne เป็นยาปฎิชีวนะเช่นกันจึงไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ
ยาแต้มสิวที่มีตัวยา Metronidazole ซึ่งเป็นยาที่ใช้ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้ลดการอักเสบของสิวได้ดี แถมยังใช้รักษาโรคสิวหน้แดง สิวจมูกโต หรือโรคซาเซียได้อีกด้วย ส่วนการใช้ก็คล้ายกับยาแต้มสิวทั่วไป คือทาบริเวณที่เป็นสิว หรือแต้มหัวสิวที่อักเสบ วันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน
ยาแต้มสิวยอดนิยมอีกตัวที่มีส่วนผสมหลักของ Salicylic acid สารที่ลดการอุดตันของผิว นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ Rice bran หรือน้ำมันรำข้าว ช่วยป้องกันแสง UV ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น boswellia serrata ช่วยลดการอักเสบ และ Oligopeptide-10 ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ลักษณะของผลิตภัณฑ์จะเป็นเนื้อเจล ขาวขุ่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
เป็นยาแต้มสิวที่เหมาะจะใช้กับสิวอักเสบ และสิวหนอง สำหรับสิวอุดตันอาจได้ผลไม่ดีเสียเท่าไหร่
เป็นครีมแต้มสิวที่สกัดขึ้นจากธรรมชาติที่น่าสนใจ ช่วยลดอาการอักเสบ บวม แดง ของสิว นอกจากนั้นยังมีสารสกัดจากต้นกระบองเพชร Nopal Extract สามารถลดการอุดตันของสิวลงได้เล็กน้อย สำหรับการใช้ก็เหมือนกับยาแต้มสิวทั่วไป
ยาแต้มสิวที่ผลิตขึ้นมาจากสารสกัดธรรมชาติผสมกับกรด salicylic สรรพคุณเด่นๆคือช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอุดตัน แถมลดรอยดำหลังจากสิวยุบลง หลายเสียงยืนยันว่าเมื่อนำไปทาที่สิวอักเสบช่วยทำให้แห้ง ยุบไวขึ้น
ครีมรักษาสิวที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวของจุฬาเฮิร์บ ราคาถูกเพียงซองละ 39 บาทเท่านั้น แต่มีประสิทธิภาพขั้นเทพ สิวสามารถยุบหายได้ภายใน 1-3 วัน ตัวยาจะเป็นเจลใส ๆ สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นเล็กน้อย เมื่อทาแล้วอาจจะรู้สึกแสบ ๆ ในช่วงแรก โดยใช้ทาแต้มหัวสิวทิ้งไว้ประมาณ 5-30 นาที แล้วค่อยล้างออก
สุดยอดครีมแต้มสิวอักเสบที่สามารถใช้รักษากับหัวสิวได้ทุกรูปแบบ อาทิ สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวไม่มีหัว สิวเม็ดแดงเล็ก ๆ ซึ่งตัวครีมทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อโรค P.Acne อันเป็นต้นเหตุของสิวอักเสบ ส่วนขั้นตอนการใช้แต้มไปที่หัวสิว
เวลาที่ทาจะรู้สึกแสบ ๆ ตรงบริเวณที่เป็นสิวเล็กน้อย แต้มทิ้งเอาไว้โดยไม่ต้องล้างออก ตัวยาจะออกกลิ่นฉุน และออกฤทธิ์แรง สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่เหมาะกับการใช้ยาตัวนี้เพราะอาจเกิดอาการระคายเคืองได้
ยาแต้มสิว ยี่ห้อไหนดี ? ตัวนี้เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรีบริสุทธิ์ทำให้สามารถลดสาเหตุของการเกิดสิว ลดอาการอักเสบ พร้อมกับช่วยทำให้สิวยุบและแห้งเร็วขึ้น ภายใน 1-2 วัน รอยแดงจะเริ่มลดลง
แถมเมื่อสิวหายก็ไม่ทิ้งรอยดำไว้กวนใจ ตอนเริ่มทาในช่วงแรก ๆ จะรู้สึกเย็น ๆ เนื่องจากตัวยาทำมาจากสมุนไพร (แต่ถ้าหากคนที่ไม่ชอบสมุนไพรอาจจะรู้สึกฉุน)
เป็นครีมแต้มสิวเนื้อเจลใส ๆใช้แต้มสิวพร้อมกับฆ่าเชื้อสิวไปในตัว ทำให้สิวยุบลงใน 2-3 วัน แถมลดการเกิดสิว ส่วนตัวยามีกลิ่นไม่แรงและไม่ทำให้แสบผิว หากต้องการให้ประสิทธิภาพดี ให้นำครีมดาลินเจลทาแต้มสิวแล้วทาครีม Benzac AC แต้มทับลงไปอีกชั้นจะยิ่งช่วยทำให้สิวยุบไวขึ้น
หากถามถึง ยาแต้มสิว ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อนี้ผสมตัวยาฆ่าเชื้อช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง เนื้อครีมจะค่อนข้างข้น หนืด และหนัก มีกลิ่นแรงพอสมควร ใช้ทาไปที่บริเวณสิวอักเสบ สิวหัวหนอง (จะได้ผลดีมากขึ้นถ้าเอาหนองออกทิ้งเสียก่อน) เป็นครีมที่ออกฤทธิ์แรง
จึงเหมาะกับการใช้แต้มสิวเท่านั้น ไม่ควรนำไปทาทั่วใบหน้า โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจะทำให้ระคายเคืองต่อผิวส่งผลให้แสบแดงและไหม้อีกด้วย
สำหรับใครที่ลองวิธีการรักษาสิวมาหลายวิธีแล้ว หรือลองทานยาแก้สิวจากหมอก็ยังไม่ดีขึ้น อาจลองใช้เป็นเจลแต้มสิวจากธรรมชาติดูบ้าง ซึ่งตัวนี้ถือว่าได้ผลดีเลยทีเดียวเนื่องจากเป็นสิวที่มีส่วนผสมของปลอกมังคุด มีคุณสมบัติลดอาการอักเสบของสิว และช่วยฆ่าเชื้อโรคต้นตอของการเกิดสิวได้อย่างยอดเยี่ยม
หมดปัญหาสำหรับคนที่เคยแพ้เจลแต้มสิวมาก่อน บอกได้คำเดียวว่าตัวนี้อ่อนโยนแบบสุด ๆ แถมยังรักษาสิวได้อย่างถาวรอีกด้วย
อย่างที่ทุกคนทราบดีว่า การที่จะใช้ยาแต้มสิวอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพราะด้วยฤทธิในยาแต้มสิว ต้องการหน้าที่สะอาดไร้ความมันก่อนใช้ และหลังใช้เองก็ต้องการครีมผลอบประโลมผิวให้ลดการเห่อแดงอักเสบ ดังนั้นการเลือกใช้คลีนซิ่งและคลีนเซอร์ให้ถูกกับสภาพผิวกับสิวที่เป็น และเสริมด้วยการมาร์กหน้าลดสิวอาทิตย์ละครั้ง ช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้น สู้รับปรับมือกับสิวได้ดีขึ้นอีกเท่าตัว
วิธีกิน ยาคุมรักษาสิวฮอร์โมน ที่คุณควรรู้ สาว ๆ หลายคนอาจจะพอทราบถึงวิธีการรักษาสิวด้วยการใช้ยาคุมกำเนิด เพราะได้ยินมาจากหลาย ๆ คนว่าใช้แล้วเห็นผลดี ผิวพรรณสดใส หน้ามันลดลง ไร้สิวกวนใจ และที่สำคัญราคายังไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับการเสียเงินไปรักษาสิวตามคลินิกเสริมความงามหรือโรงพยาบาล
ซึ่งยาคุมในท้องตลาดราคาต่อแผงจะอยู่ที่ประมาณ 80-600 บาทขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทของยาคุม ในขณะที่การเข้ารักษาสิวในคลินิกจะเริ่มที่ราว ๆ 300 บาท ไปจนถึงกระทั่งหลักหมื่นหรือแสนเลยก็มี แต่การกินยาคุมรักษาสิวก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการกินด้วยเช่นกัน
เพราะขึ้นชื่อว่ายาแล้วย่อมเกิดผลข้างเคียงตามมาอย่างแน่นอน หากใช้ไม่ถูกวิธีเพราะนอกจากจะต้องเสียเงินแล้ว อาจจะได้หน้าพังกว่าเดิมเป็นของแถมกลับมาด้วยก็ได้
– ฮอร์โมน Estrogen จะเป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเรียบเนียนสวย ผิวหน้าเกิดความมันลดลง และต่อมไขมันไม่ทำงานมากจนเกินไป หากสาวคนไหนที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะ ผิวก็จะสวย มีน้ำมีนวล แลดูสดใส หน้าอกผาย แถมรูขุมขนเนียนเรียบอีกด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่ข้อดีเท่านั้น
เพราะผลข้างเคียงของเจ้าฮอร์โมนนี้ก็คือ การรับประทานเสริมปริมาณมากเกินไปก็อาจก่อให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งในระบบสืบพันธุ์ และสุดท้ายก็ทำให้ผิวหน้าเกิดฝ้าได้ง่าย
– ฮอร์โมน Progesterone คือฮอร์โมนที่จะช่วยให้สาว ๆ เป็นคุณแม่ ซึ่งก็คือการทำให้ผนังมดลูกเตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของไข่นั่นเอง และช่วยสร้างน้ำนมให้กับว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หากมีปริมาณสูงจะช่วยลดการเกิดซีสต์ในรังไข่ แต่ก็มีผลข้งเคียงเหมือนกัน เพราะจะทำให้เกิดการบวมน้ำ จึงทำให้สาว ๆ บางคนเมื่อกินยาคุมรักษาสิวจะรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นนั่นเอง
ข้อแรกที่สำคัญก่อนจะเริ่มกินยาคุมรักษาสิวคือการเข้าไปปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมแค่กินยาคุมถึงต้องปรึกษาแพทย์ด้วย แค่ซื้อมากินตามเอกสารกำกับยาก็น่าจะเพียงพอแล้ว!! แต่ที่ต้องพบแพทย์ก่อนก็เพราะ
ยาคุมกำเนิดมีให้เลือกกินทั้งแบบ 28 เม็ด และ 21 เม็ด ซึ่งการกินจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย คนส่วนใหญ่เลือกที่จะกินแบบ 28 เม็ดเสียมากกว่าแบบ 21 เม็ด เพราะไม่ต้องสับสนเรื่องของการนับวัน โดยแบบ 28 เม็ด จะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเท่ากันอยู่ 21 เม็ด ส่วนอีก 7เม็ดจะเป็นวิตามินอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามส่วนสำคัญในการกินยาคุมรักษาสิวก็คือ สาว ๆ ห้ามลืมกินยาคุมโดยเด็ดขาด ควรศึกษารายละเอียดการกินยาคุมให้ถูกวิธี เช่น พยายามกินยาคุมให้ตรงเวลาเดิมทุกวัน วันละ 1 เม็ดด้วยการนับวันตามลูกศรที่อยู่บนแผง กรณีที่ลืมกินยาคุมไป 1 วัน เมื่อนึกขึ้นได้ให้กินทันที หรือหากลืมกินหลายวันก็ให้ศึกษาตามแผ่นพับข้อแนะนำว่าควรทำอย่างไร เพราะถึงแม้จะเป็นการกินยาคุมเพื่อรักษาสิวก็ต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดเหมือนกับการกินเพื่อคุมกำเนิด
จากการวิจัยพบว่าการใช้วิธีกินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมเพื่อรักษาสิวนั้น ผู้ป่วยมีจำนวนสิวลดลง แถมยาคุมยังช่วยลดการเกิดสิวใหม่ รวมทั้งลดความรุนแรงและการอักเสบของสิวด้วย แต่การกินยาคุมอาจจะต้องใช้เวลาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงจะเห็นผลลัพธ์สาเหตุจากที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศให้เข้าสู่ภาวะปกติ
– ข้อห้ามของผู้ที่ไม่ควรกินยาคุมรักษาสิว
ฉะนั้นสาว ๆ ที่อยากจะมีผิวใส หน้าสวย ไร้สิว อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจเลือกวิธีรักษาสิวด้วยการกินยาคุมตามคำพูดของคนโน้น คนนี้ว่าดี รักษาสิวให้หายเกลี้ยง แนะนำว่าควรที่จะพบแพทย์ผิวหนังเพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีจะดีกว่า เพราะนอกจากจะได้ใบหน้าที่สวยงามเป๊ะแล้ว ยังปลอดภัยอีกด้วยอย่าลืมกันนะว่า ใบหน้าจะต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเลยล่ะ
เป็นอย่างไรบ้างกับ ยาแต้มสิวที่ดีที่สุด ที่เราแนะนำมาทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่สามารถลดปัญหาเรื่องสิวได้ แต่หากให้เลือกว่าตัวไหนดีที่สุดคงยากที่จะฟันธงได้ เพราะสภาพผิวหน้าของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นอาจจำเป็นต้องทดลองด้วยตนเองเป็นดีที่สุดเพื่อให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
อ้างอิง :